January 18, 2016






the forgotten recollection







บางทีผมก็คิดว่าผมฝันไป และตื่นมาพร้อมกับความหวังที่ถูกทำลาย
และบางทีผมก็คิดว่านั่นเป็นแค่ฝันร้าย แล้วความหวังทั้งหมดก็กลับคืนมาใหม่

ช่วงเวลาที่ได้อยู่ท่ามกลางผู้คนธรรมดาช่างเหมือนฝันที่แสนสุข
และระทมทุกข์เมื่อคิดถึงอนาคตที่ไร้หวังและว่างเปล่า

นี่...รู้ไหมว่าช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคุณมันแสนพิเศษ
และผมไม่คิดว่าผมจะมีโอกาสได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นที่ผมได้เก็บไว้

ผมนึกว่าเราอาจเป็นได้แค่คนที่อยู่ข้างกันเพียงชั่วคืน และหาจากไปในวันรุ่งขึ้น
เป็นเพียงยาที่ทำให้ใจชุ่มชื้นขึ้นเพื่อใช้มันต่อไปอีกวัน

ในตอนนั้นผมเห็นแก่ตัวมากเกินไปหรือเปล่านะ?

แต่ผมเองก็ยังอยากจะมีโอกาสได้ลืมตาในยามเช้าของวันถัดไปอยู่เสมอ แม้เพียงอีกสักวินาทีเดียวก็ยังดี

ตอนนั้นผมขี้ขลาดเกินไปหรือเปล่าที่ไม่เคยคิดจะเอ่ยปากพูดไปก่อน
เพราะผมลบความหวังจนไม่กล้าที่จะดึงคุณไว้ด้วยตัวเอง

หรือจริงๆแล้วผมเห็นแก่ตัวเกินไปไหมที่ตอบรับความรู้สึกใสซื่อตอนนั้นของคุณขึ้นมา

นี่...มือที่จูงกับคุณมันอุ่นจริงๆนะ
อุ่นจนผมกลัวว่าหากสักวันผมพลาดและต้องปล่อยมือนั้นไป ผมจะต้องทำอย่างไรที่จะไม่ทิ้งรอยแผลไว้ให้คุณ

ผมเคยคิดว่าหากมันจะทำให้คุณเจ็บปวดเข้าสักวัน หรือมันจะดีกว่าหากเราไม่ได้จับมือกันตั้งแต่วันนั้น

แต่ในใจจริงผมดีใจที่เราได้ใช้ช่วงเวลาเล็กๆใกล้ชิดกัน และไม่อยากจะปล่อยมือนี้ไปเลย

นี่...คุณมั่นใจแล้วรึเปล่าที่จะไปกับผมแบบนี้
ผมอยากปกป้องดูแลคุณ แม้ว่าผมจะไม่มั่นใจว่ามือคู่นี้สามารถทำอะไรได้

นี่...หากเส้นทางนี้ไม่ได้มีจุดจบที่สวยงาม คุณจะยังจับมือเดินไปพร้อมกับผมไหม





อ้อมกอดอบอุ่นนั้นผมอยากโอบประคองรักษาไว้ด้วยตัวผมเอง

No comments:

Post a Comment